วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

จดหมายจากคนชื่อ นิติ สว่างทรัพย์

จดหมายจากคุณ นิติ สว่างทรัพย์

UTAH VISIT 1 : VISIT AGEL HEADQUARTER

เพื่อนๆที่รักทุกท่าน

บางท่านอาจพอทราบนะครับว่า ผมเพิ่งไป เยี่ยมชม สำนักงานใหญ่ อาเจล ที่ยูท่าห์ มา
วันก่อนได้ ฉายสไลด์ ให้ผู้นำ ได้ดูกันบ้างแล้ว เลยคิดว่าสรุปเนื้อ หา สั้นๆให้ ได้รับทราบกัน อาจเป็นประโยชน์มากขึ้น

ผมอยู่ที่นั้น 3 วันเต็ม พบปะผู้คนมากมาย ทั้งผู้บริหาร สตาฟ ผู้จำหน่ายระดับผู้นำ เยี่ยมชมโรงงาน ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการสร้างธุรกิจมากมาย ในรอบ 7 ปีหลังของการทำงานในธุรกิจเครือข่าย ผมไปยูท่าห์ ไม่ต่ำกว่า 15 ครั้ง นี่เป็นครั้งที่ผมประทับใจที่สุด จะขออนุญาติถ่ายทอดให้ทราบบางส่วนนะครับ

1. เรื่องทั้งหมดเริ่มต้นตั้งแต่ ต้นปี 2005

ตอนนั้นผมยังทำงานที่ตาฮิเตียน โนนิอยู่ประสบความสำเร็จพอสมควร พอผมตัดสินใจที่จะค้นหาโอกาสใหม่ๆ ให้กับตัวเอง ก็เลยทำการวิจัยบริษัท mlm ชั้นนำทั่วโลก ประมาณ 100 บริษัท วิเคราะห์แล้วตัดเหลือ 6 บริษัทที่ดีที่สุด คือ มาลาลูก้า,
ยูนิซิตี้,ยูซาน่า, ซินเนอร์จี้,เอเจล,โมนาวี จากนั้นดูจังหวะเวลาที่จะเปิดในไทยสุดท้าย ตัดเหลือ 3 บริษัทเพื่อบินไปดู เเละคุยกับผู้บริหาร คือ ซินเนอร์จี้,เอเจล,โมนาวี

ตอนนั้นซินเนอจี้ เปิดในไทย แล้ว 2 ปี, อีก 2 เเห่งมีโครงการจะเปิดในไทย จาก 3 แห่ง จริงๆแล้ว เอเจล ดูดีที่สุด ทั้ง idea สินค้าความเป็นมืออาชีพของผู้บริหาร เเต่เนื่องจากยังไม่ทันเปิดบริษัทเป็นทางการเลย ถึงน่าสนใจแต่ผมกลัวบริษัทเปิดใหม่ไปไม่รอด จึงตัดสินใจเลือกความมั่นคง คือ ซินเนอจี้ ที่แบ็คโดยเนเจอซันไชน์ 2 ปีของการทำงานในซินเนอร์จี้ก็ทำอย่างสุดความสามารถ โชคดีที่ได้ร่วมงานกับคุณบัญชาและทีมสตาฟ และ ผมยังได้คู่หูที่ดี อย่างคุณวรรณ และเพื่อนๆอีกมากมาย ทำให้ทุกอย่างเติบโตด้วยดี เป็นช่วง 2 ปีที่มีความหมายกับผมมาก เเต่ด้วยอุบัติเหตุการเมืองทำให้ผมจำเป็นต้องเริ่มงานใหม่ แต่อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณประสบการณ์ดีๆ เพื่อนดีๆ เป็นอย่างยิ่ง

2.ความประทับใจในตัวผู้ก่อตั้ง Mr.Glen Jensen
พบกันอีกครั้ง 2 ปีให้หลังคุณเกล็น ดูดีกว่าเดิมมาก อาจเป็นเพราะความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมาทำให้ราศีดูสดใส คุณเกล็นเป็นคนที่พูดน้อย มาดสุขุมลุ่มลึก แต่เมื่อพูดจาจะแสดงออกถึงความเฉียบแหลมเสมอ ผมขอเล่าประวัติคุณเกล็นสั้น ๆ เล็กน้อย....
คุณเกล็น เคยอยู่ที่ญี่ปุ่นทำให้พูดภาษาญี่ปุ่นได้ และมีความคุ้นเคยกับตลาดญี่ปุ่นเป็นอย่างดี หลังจากเรียนจบไม่นาน ก็ได้ทำงานกับบริษัท นูสกิน ในส่วนของ Customer Service เกือบ 10 ปี จากนั้นก็ไปทำงานในบริษัทยายักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น และมาเป็นผู้บริหารของบริษัท นิวเวย์ ในส่วน International Market Business Development จากนั้นหลายปีก็ถึงจุดอิ่มตัวจึงได้ออกมาตั้งบริษัท MLM ของตนเองชื่อบริษัท ซินเนอจี้ เวิร์ลไวด์ ในปี 1999 โดยเริ่มเปิดตลาดที่ญี่ปุ่นก่อนซึ่งเป็นตลาดที่คุณเกล็นเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ จนกระซินเนอจี้ได้รับการจัดอันดับเป็น HOT 100 อันดับที่ 8 โดยวารสาร Enterpreneur ซี่งเป็นผลงานที่โดดเด่นของคุณเกล็นทั้งสิ้น แต่เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นตลาดที่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายอย่างสูงในการบริหารจัดการ ยิ่งเติบโตก็ยิ่งมีปัญหา Cashflow ในที่สุดคุณเกล็นจึงตัดสินใจเป็นพันธมิตรกับ เนเจอซันไชน์ โดยขายบริษัทไปเป็นมูลค่า 5.5 ล้านเหรียญ และคุณเกล็นก็ยังเป็นประธานจนกระทั่งถึงกลางปี 2002
ด้วยเหตุผลทางเทคนิคบางประการ คุณเกล็นจึงลงจากตำแหน่งและลาออกจากการทำงานในซินเนอจี้เวิร์ลไวด์ หลายปีให้หลังก็ได้ก่อตั้งบริษัท เอเจล ขึ้นมา และเริ่มต้นเปิดทำการเดือนแรก ตุลาคม ปี 2005 สิ่งที่น่าทึ่งและเป็นตัวพิสูจน์ความน่าสนใจ ของผลิตภัณฑ์ เจลซูติคัล ก็คือ มีการติดต่อเข้ามาจากบริษัทยักษ์ใหญ่ที่คุณเกล็นเคยร่วมงานด้วยเพื่อขอซื้อเอเจลเข้าไปเป็น บริษัทลูก โดยเสนอราคาเพิ่มขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งสูงถึง 60 ล้านเหรียญ แต่คุณเกล็นและทีมบริหารตัดสินใจ ไม่ขายบริษัท เพราะมั่นใจในอนาคตของบริษัท เอเจล ว่าจะสามารถก้าวไปถึงระดับ Billion Dollar Company ได้

3. มิตรภาพที่แน่นแฟ้น ระหว่าง คุณชนิดา กับ คุณเกล็น
หลายคนจะไม่ทราบว่าหลังจากคุณเกล็นไม่ได้เป็นผู้บริหารที่ซินเนอจี้ แล้ว ท่านได้เป็นผู้จำหน่ายอยู่ในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ท่านพบว่า งานนี้ไม่ใช่เป็นงานที่ท่านถนัด สุดท้ายก็เลยไม่ได้ทำต่อ และสามารถคัมแบ็คมาก่อตั้งเอเจลได้ในที่สุด ในช่วงเวลาที่ คุณเกลนเป็นผู้จำหน่ายนั้นเองที่ได้เรียนรู้ว่า ใครจริงใจ ใครไม่จริงใจ หลายครั้งที่ท่านไปร่วมงานประชุมของบริษัท บางคนที่เคยร่วมงานกันมากลับทำเป็นไม่เห็นท่าน เเต่คุณชนิดายังคงปฏิบัติตัวเหมือนสมัยที่คุณเกล็นยังเป็นประธานบริษัทอยู่ ทุกครั้งที่เห็นคุณเกล็นนั่งหลังห้องเงียบๆ คุณชนิดาจะต้องดึงมือคุณเกล็นให้ไปนั่งยังที่นั่งแถวหน้าสุดอันทรงเกียรติ เมื่อคุณชนิดาขึ้นบรรยายบนเวที ถ้าคุณเกล็นอยู่ในที่แห่งนั้น จะต้องเอ่ยถึงความสำคัญ เเละยกย่องให้เกียรติคุณเกล็นใน ฐานะ Founder ของบริษัทเสมอ "ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์ใจคน" เพื่อนเเท้ย่อมเห็นได้ ในยามยาก มิตรภาพระหว่างคุณชนิดา และคุณเกล็นจึงเเน่นเเฟ้นเป็นที่สุด
เมื่อปี 2005 ตอนกำลังฟอร์มทีม เอเจล คุณเกล็นจึงเชิญคุณชนิดาให้มาร่วมกันก่อตั้ง คุณชนิดาสนิทกับผม ผมก็เลยพิจารณา เอเจล เเละบินไปดูด้วยตาตัวเองเมื่อต้นปี 2005 อย่างที่เรียนให้ทราบเบื้องต้น ในที่สุดด้วยความไม่มั่นใจในบริษัทเปิดใหม่ ผมกับคุณชนิดาก็ตัดสินใจลุยงานในซินเนอจี้ จนกระทั่งปลายเมษานี้เองที่คุณชนิดาตัดสินใจลาออกจากบริษัทเดิม เเละร่วมงานกับเอเจล โดยคุณเกล็นพร้อมสนับสนุนคุณชนิดาอย่างเต็มที่

4. ประวัติศาสตร์ปรากฏชัด ทุก 10 ปีจะมี MLM ยักษ์ใหญ่เกิดขึ้น

ปี 1957 AMWAY ผลิตภัณฑ์ภายในบ้าน
ปี 1967 MARY KAY ผลิตภัณฑ์ Cosmetic
ปี 1977 HERBALIFE ผลิตภัณฑ์ด้านลดน้ำหนัก
ปี 1987 NUSKIN ผลิตภัณฑ์ด้านสกินแคร์
ปี 1997 Morinda ผลิตภัณฑ์น้ำโนนิ
ปี 2007 คุณคิดว่าใครจะเป็นยักษ์ใหญ่รายถัดไป ?

ลักษณะร่วมกันของบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่ประสบความสำเร็จ
จากการวิเคราะห์พบว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ล้วนแล้วแต่มีคุณลักษณะร่วมกันดังต่อไปนี้

มีผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวชัดเจน ทำการบุกเบิกตลาดใหม่ ไม่ใช่สินค้าที่เป็นการลอกเลียนแบบ
ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ และมีประสบการณ์ภาคสนามหลายปี สามารถบริหารได้อย่างเป็นอิสระ
มีกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการที่ชัดเจนว่าจะทำอะไรบ้าง มีการบุกเบิกตลาดอย่างไร ใช้เทคโนโลยี่ช่วยให้ผู้จำหน่ายทำงานง่าย
ขึ้น
เพิ่มความมั่นใจให้ผู้จำหน่ายโดยการสร้างสำนักงานใหญ่ของตนเอง
สามารถดึงดูดคนเก่งระดับโลกเข้ามาร่วมงานได้ ทั้งผู้บริหาร นักวิทยาศาสตร์ และผู้จำหน่าย
สามารถจัดงาน International Convention ขนาดใหญ่ที่มีผู้คนหลายพันคนทั่วโลกมาร่วมงาน จะยิ่งทำให้ผู้จำหน่ายทั่วโลก
เกิดความมั่นใจ จนทำให้ เกิดโมเมนตัม ได้อย่างรวดเร็ว

ด้วยความจริงใจ
นิติ สว่างทรัพย์

4 ความคิดเห็น:

  1. คนชื่อนิติเปลี่ยนค่ายไปเรื่อยๆไม่มีความจริงใจกับค่ายไหนเลยพอทำแอมเวย์ไม่สำเร็จก็ย้ายค่ายไปเรื่อยๆ เอเจลก็ขี้โม้มาก เราลองคิดเงินดูแล้ว ที่มันจ่ายต่อเดือนมันมากมายเหลือเกินจนน่ากลัวว่าของที่มันเอามาขายผู้บริโภคแท้จริงแล้วมันมีคุณภาพหรือไม่หรือก็แค่น้ำดูดธรรมดาเห็นพูดแต่เรื่องเงินไม่มีข้อมูลสินค้าหรือให้ความเข้าใจใดๆเลย เหมือนพวกบ้าเงิน เรารู้มาว่านิติออกเงินซื้อเฟอรารี่เองด้วยหล่ะมีเงินบริษัทแค่ไม่กี่ล้านที่เหลือเป็ฯเงินที่ นิติหลอกเขามาทั้งนั้น ถ้าใครสนใจธุรกิจนี้หาข้อมูลดีๆเพราะเราจับไก้ว่าตึกที่มันเอามาโฆษณาจริงๆแล้วเป็นออฟฟิตให้เช่าไม่ได้เป็นของบริษัททั้งตึกแต่อย่างใด และเชื่อได้ว่าเดี๋ยวพอมียี่ห้ออื่นมา พี่นิติก็ย้ายอีกตามเคยไปบอกว่ายี่ห้อนี้ดีกว่า คนแบบนี้ไม่มีจรรยาบรรณ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ30 ตุลาคม 2552 เวลา 00:49

    จบข่าว

    ตอบลบ
  3. ก็แล้วแต่มุมมองครับ
    การจะเลือกธุรกิจใดต้องดูว่าเหมาะกับเราไหมโดยคำนึงถึง
    -บริษัท
    -แผนรายได้
    -ทีมงาน
    -วิสัยทัศน์ผู้บริหาร
    -สินค้า

    สนใจมาแชร์ความรู้กันได้ที่ http://forum.myaimstar.com นะครับ

    ตอบลบ
  4. ไม่ระบุชื่อ25 เมษายน 2554 เวลา 10:15

    เครือข่ายไม่หยุดนิ่ง เฉกเช่นเดียวกับคนทำเครือข่ายไง

    ตอบลบ