วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

เดือนละล้าน ใครก็ทำได้

เดือนละล้าน ใครก็ทำได้
โดย นิติ สว่างทรัพย์



“ผมเชื่อโนฮาวของผมที่มีอยู่ไม่แพ้ใคร ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างแนวอเมริกันกับมาเลย์ และการที่ผมสร้างตัวเองมาได้ วันนี้ผมค้นพบว่า มันต้องมี 5 พร้อม สำหรับคนที่จะทำอินเตอร์ได้ ประการแรก ต้องพร้อมด้านกำลังทรัพย์ พร้อมเวลา พร้อมความรู้ พร้อมภาพพจน์ความสำเร็จ และพร้อมภาษา ขาดอันใดอันหนึ่งไม่มีทางสำเร็จได้”

“...หากมีความเข้าใจธุรกิจเครือ ข่ายอย่างแตกฉาน ผมว่าทำให้ล้มเหลว ยากกว่าทำให้สำเร็จซะอีก…”
นี่คือคำกล่าวที่ดูเหมือนว่าจะ “อหังการ” แต่เป็นไปได้จริงของ “สุดยอดนักขายเงินล้าน” หนึ่งใน “นักธุรกิจอิสระดีเด่น” ของ “สมาคมขายตรงไทย” นามว่า “นิติ สว่างทรัพย์” ปัจจุบันเขาขึ้นแท่น ระดับ TOP TEN ของเมืองไทย เป็นที่เรียบร้อย !!!
แม้ว่า “นิติ” จะมีอายุเพียงแค่ 30 ปีเศษ แต่เขาก็สามารถพิสูจน์ตัวเองในแวดวง นักธุรกิจเครือข่ายได้สำเร็จ ก่อนที่จะก้าวขึ้นสู่ “เบอร์ 1” ในบริษัทขายตรงข้ามชาติมาแรง อย่าง “Agel Enterprise” (อาเจล เอ็นเตอร์ไพรส์ ไทยแลนด์) พร้อมด้วย “8 ขุนพล” ผู้ทรงพลังแห่งศักยภาพ ที่ร่วมกันคว้ารางวัล “กองทุนเบนซ์” กราวรูด 9 คัน มาครอบครอง ในระยะเวลาไม่ถึงครึ่งปีเท่านั้นเอง !!!
ก่อนหน้านี้ “นิติ” ได้ทำยอดขายทะลุไปแล้ว 120 ล้านบาท เมื่อปลายปีที่ผ่านมา และกำลังสร้างแรงเหวี่ยงก้าวกระโดด ด้วยการทำเป้าหมายแตะ 700 ล้านบาทในสิ้นปีนี้ บนความคาดหมายว่า ปีหน้ายอดขายจะต้องเกิน 1,000 ล้านบาท ภายใต้ “พันธกิจ”... บุกตะลุย “เครือข่ายอินเตอร์” ไปทั่วทุกมุมโลก !!! โดยการเปิดตลาดไปยัง เวียดนาม เยอรมัน อเมริกา สิงคโปร์ มาเลย์ ฮ่องกง และออสเตรเลีย ฯลฯ
แต่เหตุการณ์นี้ จะถูกนับเป็น “ประวัติศาสตร์” อีกหน้าหนึ่งของเมืองไทยหรือไม่? ขึ้นอยู่กับคนในแวดวงธุรกิจเครือข่าย รวมทั้งท่านผู้อ่านที่จะเป็นผู้ร่วมโหวตลงคะแนนสนับสนุนให้มีการ “บันทึก” ไว้ เพื่อเป็น“รอยเส้นทางแห่งอดีต” ให้ “คนรุ่นหลัง”ได้ศึกษา เพื่อเป็น “ทางลัด” นำตัวเองก้าวขึ้นสู่ความสำเร็จ ด้วย“สูตรธุรกิจ” เฉพาะแบบนี้ ในวันข้างหน้า
หากวิเคราะห์ถึง “จุดขาย” ใน “จุดแข็ง” หรือความเป็นตัวตนของ “นิติ” พบว่า เขาคือนักธุรกิจอิสระคนหนึ่งที่ยึดมั่นในความพยายาม และมีความมุ่งมั่นที่จะ “สานฝัน” ด้วยการสร้างความสำเร็จในวิชาชีพ “ให้เป็นจริง” โดยวิธีการปฏิบัติธรรมดาๆ แบบว่า...ใครๆ ก็ทำได้ !!!
โดยอาศัยการเรียนรู้จากประสบการณ์ทำงาน “ภาคสนาม” ที่ผ่านการกลั่นกรองหลายตลบมาแล้ว จาก“หลักคิด” ที่ตกผลึก จนกระทั่งกลายเป็น “ซิสเต็มทูซัคเซส” หรือ “ระบบสู่ความสำเร็จ” ของตัวเอง
ตัวตน “นิติ สว่างทรัพย์”มนุษย์ธรรมดาคนหนึ่ง!
ขอเริ่มต้นด้วยการย้อนรอยไป “รู้จัก” ตัวตนและความเป็นมาของ “นิติ” ในสมัยเมื่อครั้งที่เขายังเป็น“หนุ่มน้อยหน้าหยก” ไร้คนกล่าวขาน จนกระทั่งกลายมาเป็น “บุคคล ซัคเซส” ในทุกวันนี้... แท้จริงแล้วในอดีตเขาเป็นคนที่มี “วิสัยทัศน์” ต่อธุรกิจเครือข่ายและประกันภัย อันเป็น“เครือข่ายผู้บริโภค”ที่“ทรงพลังมหาศาล”แบบธรรมดาๆ และค่อนข้างจะ “แอนตี้” ด้วยซ้ำไป เหตุผล คือ...
เป็น “งานขาย” จึงไม่เหมาะกับ “ภาพลักษณ์” และสถานะทางสังคมที่เขาเป็นอยู่ในเวลานั้น !!!
เพราะหลังจบการศึกษา “ชั้นหัวกระทิ” ในระดับปริญญาตรี “วิศวะ” จากรั้ว“จามจุรีสีชมพู”หรือ “จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย” มาหมาดๆ เขาได้เดินเข้าสู่สายงานวิชาชีพที่ ใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก ด้วยการเป็น “วิศวกร ปิโตรเลียม” ในบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่สมความปรารถนา ซึ่งในขณะนั้น เขาคิดว่า ชีวิตของเรา เดินทางมาสู่ความสำเร็จ ในวิชาชีพการงานแล้ว !!
เหตุนี้เอง เมื่อมีใครมา สปอนเซอร์ เขาเข้าร่วมงานขายตรง มักจะถูกปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง เผลอๆ อาจได้ยินคำสบถต่อท้าย ประมาณว่า
“...แหมจบวิศวะมาขายสบู่อย่างงี้เสียหาย... หา...เหย...มา ...หมด”
เขายอมรับว่า ตัวเอง “ปิดใจ” ไม่ยอมรับ “งานขาย” อะไรทั้งนั้น !!!
ต่อมาแม้ว่า “นิติ” จะพยายามทุ่ม เทและสนุกสนานกับการทำงาน รวมทั้งการเป็น “วิศวกรน้ำมัน” ขนาดไหนก็ตาม แต่อีกด้านหนึ่ง เขาเริ่มสัมผัสได้ถึง “ความล้มเหลว” เพราะตัวเองเป็นคนที่ “ไร้มนุษย์สัมพันธ์” จึง “สื่อสาร” กับผู้ใต้บังคับบัญชาในสายงานไม่ประสบผลสำเร็จ ส่งผลให้“การบังคับบัญชา” และ “การสั่งงาน” ต่างๆ ติดขัดไปหมด
ณ ขณะนั้น ช่วงปี 2533 “นิติ” เล่าว่า “ผมต้องการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่มีต่องานประจำ และได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษากับวิศวกรรุ่นพี่ ผมได้รับคำแนะนำว่า ควรจะไปทำงานขาย ขายของอะไรสักอย่าง เพื่อจะได้ฝึกทักษะการสื่อสาร และการทำงานร่วมกับคนหมู่มาก แต่จะต้องมีอิสระ ไม่ใช่งานขายประจำ สุดท้ายก็มาลงเอยที่ แอมเวย์ บริษัทขายตรงยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา ที่เพิ่งมาเปิดตลาดในเมืองไทย เมื่อปี 2530 นี้เอง”
ครั้งนั้นแม้ว่า“ใจ”ของ“นิติ”จะ“ปิด” ต่องานขายทุกชนิด แต่สุดท้ายก็ต้อง“ยอม” แง้มประตูออกมาศึกษาค้นหา“วิธี”การทำงานร่วมกับคนหมู่มาก และเรียนรู้การมี “มนุษย์สัมพันธ์” ที่ดีต่อผู้คน อันเป็นคุณลักษณะที่โดดเด่นของธุรกิจขายตรงนั่นเอง


กลั่นประสบการณ์สู่ “ระบบซัคเซส”
เกินที่จะล้มเหลว!!
หลังจากนั้น เส้นทางชีวิตการทำงานของ“นิติ” ก็เริ่มเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แม้ว่าเขาจะไม่ได้มีความตั้งใจจริงที่จะมาเป็น “นักขายตรง” แต่ในที่สุดเสน่ห์ของธุรกิจขายตรงที่ให้ “อิสรภาพทางเวลา” ได้ช่วยดึงดูดและมัดใจเขา ให้“หักเห” เส้นทางการทำงานจากงานประจำ มาใส่ใจ“งานขาย”ในแบบ“ธุรกิจอิสระ” มากยิ่งขึ้น จนกระทั่งกลายเป็น “ฝันที่สอง” ของชีวิต และเขาได้ตั้งเป้าหมายว่า
เราจะต้องพิชิตตำแหน่งสูงสุดขององค์กร “แอมเวย์” ให้ได้ !!!
สุดท้าย จึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำ ซึ่งเป็นงานสายอาชีพที่เขารัก เพราะเป็น “ฝันแรก” ของตัวเอง “นิติ” ให้เหตุผลว่า เขาเริ่มศึกษาและเรียนรู้ รวมทั้งวิเคราะห์ความสำเร็จของนักขายตรงที่ประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างละเอียดรอบคอบ จนกระทั่งได้ข้อสรุปว่า...
“หากจะทำฝันที่สองของตัวเองให้สำเร็จ เราจะต้องเล็งหาช่องทางที่จะเป็นต้นสายงานของธุรกิจเครือข่ายในประเทศใดประเทศหนึ่งให้ได้ ผมจึงพยายามหาโอกาสให้กับตัวเองอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งได้จังหวะดี ผมจึงตัดสินใจบินไปเปิดสายงานที่ประเทศฟิลิปปินส์ โกอินเตอร์ครั้งแรก แล้วก็จบลงด้วยความล้มเหลว”
หลังจากนั้นไม่นาน“นิติ” ได้เปลี่ยนวิถีทางไปเรียนรู้การทำธุรกิจขายตรงในอีกมิติหนึ่ง ในฐานะ“ผู้บริหาร” จุดนี้เองที่ทำให้เขาได้รับรู้และ“เข้าใจ” ว่า
แท้จริงแล้ว“ธุรกิจขายตรง”ไม่ได้มีแค่ “มิติ” เดียวเท่านั้น !!!
เพราะเป็นธุรกิจที่มีความสลับซับซ้อนอยู่ในตัวเอง จำเป็นที่จะต้องมี“ระบบ” ในการขับเคลื่อนเครือข่ายอันกว้างใหญ่ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล
10 ปี ผ่านไป คล้ายกับว่า“นิติ” จะไม่ค่อยประสบความสำเร็จอะไรมากนัก...!!
แต่พอเริ่มรอบทศวรรษใหม่ เขาได้พลิกยุทธศาสตร์การทำงานใหม่ โดยการรวบรวมประสบการณ์ และศึกษาแนวทางของ “ผู้สำเร็จ” หลากหลายคนเพิ่มเติม จากนั้นได้นำมาผนวกเป็น “หลักคิด” เพื่อแยกส่วนสู่การ“ปฏิบัติ” อย่างจริงจัง บนวิธีการ “ทำซ้ำ” ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
โดย“นิติ”ได้เรียกปฏิบัติการนี้ว่า “ระบบ” หรือ “สูตรนิติ” จนกระทั่งผลที่ได้ คือ
การประสบความสำเร็จบนเส้นทางนักขายตรงเป็นครั้งแรก !!!
“นิติ” กลายเป็น “สุดยอดนักขายเงินล้าน” และได้รับการยกย่องให้เป็น “นักธุรกิจอิสระดีเด่น” แห่ง “สมาคมการขายตรงไทย” (TDSA) ปี 2546 และเป็นนักขายตรงระดับสูงสุดของ“โนนิ” (ตาฮิเตียนโนนิ) พร้อมกันนั้นเขายังได้สาน“ฝันที่สาม” กับความพยายามที่จะโกอินเตอร์เป็นครั้งแรก.. ด้วยการขยายสายงานเครือข่ายไปยัง เวียดนาม
ส่งผลให้มียอดขายสูงถึงเดือนละไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาท !!!


“ธุรกิจเครือข่าย”เส้นทางสู่ความมั่นคงและมั่งคั่ง!!
“สูตรสำเร็จ” หรือ “ระบบการทำงาน” ของ “นิติ” ในเบื้องต้น หลายคนอาจจะยังมองเห็นภาพได้ไม่ชัดเจนมากนัก... หากกล่าวถึง “ซิมพลีเดอะเบส” หรือทีมงานขายตรงอับดับหนึ่งใน “ตาฮิเตียนโนนิ” ในยุคที่ผ่านมา อาจจะพอช่วยให้นึกภาพการทำงานของทีมงานนักขายตรงมืออาชีพทีมนี้ออกว่า
มีสไตล์การทำงานอย่างไร? สู้กับนักขายตรงต่างชาติได้อย่างไร? ขนาดไหน?
โดย “นิติ” ได้ยอมรับว่า “ผมเชื่อว่าโนฮาวของผมที่มีอยู่ไม่แพ้ใครในโลก เพราะอยู่ตรงกลางระหว่างแนวอเมริกันกับมาเลย์ ซึ่งการที่ผมจะสร้างตัวเองมาได้จนกระทั่งถึงจุดนี้ ผมค้นพบว่า จะต้องมี 5 พร้อม สำหรับคนที่จะโกอินเตอร์ 1.จะต้องพร้อมกำลังทรัพย์ 2.จะต้องพร้อมเวลา 3.จะต้องพร้อมความรู้ 4.จะต้องพร้อมภาพลักษณ์แห่งความสำเร็จ 5.จะต้องพร้อมภาษาสากล ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ได้ เพราะจะต้องไม่ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน”
หากสงสัยว่า “โนฮาว” หรือ “ระบบ” (สูตรนิติ) เป็นอย่างไรนั้น ?!
เบื้องต้น “นิติ” ได้เผยหลักคิดว่า จะต้องยึดหลักการ “ทำงาน=ทำเงิน” หรือ “Activity=Income” ภายใต้เงื่อนไขปฏิบัติการทำซ้ำ จนกระทั่งอาจเรียกว่าเป็น “งานพื้นฐาน” ที่สอนทีมงานให้ทำต่อเนื่อง อย่างสม่ำเสมอ 3 อย่าง คือ
1.งานที่สร้างยอดขาย
2.งานที่สร้างคน
3.งานที่ฝึกฝนคนให้สามารถทำงานที่จะสร้าง “ยอดขาย” และสร้าง “คน” ได้

จากนั้นก็ “สร้างงาน” ด้วยการทำให้เกิดการ “เลียนแบบ-ทำซ้ำ” ได้ ภายใต้สภาวะสิ่งแวดล้อมที่ทำให้มีการ “ขับเคลื่อนคน” เข้าสู่สายงาน นั่นคือ จัดให้มีการประชุมประจำสัปดาห์ ประจำเดือน ประจำสี่เดือน, มีกลไกการตั้งเป้าหมายความสำเร็จเป็นลำดับชั้น, มีการให้รางวัลความสำเร็จเป็นลำดับชั้นขึ้นไปเรื่อยๆ และมีเครื่องมือในการให้ความรู้ต่างๆ เช่น วีซีดี ซีดี เอ็มพีสาม และหนังสือที่ผ่านการคัดกรองโดย “นิติ” เป็นต้น
“ที่สำคัญที่สุด เงินพันล้านจะมาหาเราได้ จะต้องมีคนเยอะพอ คนจะต้องมาจากการ สปอนเซอร์ แต่ไม่ใช่ การสปอนเซอร์โดยเราเพียงคนเดียว เพราะเราจะต้องสอนให้ลูกทีมเข้าใจ เพื่อจะได้สปอนเซอร์เป็น โดยมีเราคอยดูแลอยู่ห่างๆ”
อย่างไรก็ตาม“ฝัน”จะเป็นจริงได้ เราจะต้อง “ลงมือทำ” และปฏิบัติอย่างจริงจัง ภายใต้กรอบวิธีการทำงานอย่าง “มีระบบ” เพื่อเป็น “กลไก”ขับเคลื่อน ควบคู่ไปกับการทำงานที่“เลียนแบบ”ผู้สำเร็จ เช่นเดียวกับ“นิติ” ที่“ค้นพบ” เส้นทางสู่ความสำเร็จของตัวเองในที่สุด
สุดท้าย “นิติ” ได้ฝากข้อคิดถึงท่านผู้อ่านว่า “ใครก็ตามที่กำลังมองหาช่องทางการทำธุรกิจ รวมทั้งต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ และต้องการมีรายได้สูงๆ ระดับหลักแสนบาท หรือหลักล้านบาทต่อเดือน ธุรกิจเครือข่ายสามารถที่จะตอบสนองความต้องการของคุณได้ เพียงแค่คุณมีความมานะอดทน และมีความพยายามอย่างต่อเนื่อง สัก 2 – 3 ปี ธุรกิจนี้จะนำมาซึ่งความมั่งคงและมั่งคั่งได้อย่างแน่นอน”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น